วิธีทำงานวิจัยที่มีคุณภาพ ได้รับรางวัลระดับชาติ
 

 

ผลการวิเคราะห์การดำเนินงาน จุดแข็ง – จุดอ่อน
การสร้างเสริมความแข็งแกร่ง และแนวทางแก้ไขแยกตามมาตรฐาน

มาตรฐานที่ 2  ::  งานวิจัยและงานสร้างสรรค์

จุดแข็ง

จุดอ่อน

2. สถาบันฯ มีนโยบายการทำวิจัยที่ชัดเจนในรูปแบบต่าง ๆ รูปแบบงานวิจัยแบบต่อเนื่องระยะยาวเพื่อสามารถนำผลวิจัยสู่การประยุกต์ใช้ในการเสริมสร้าง คุณภาพชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะเยาวชน จัดเป็นการวิจัยและพัฒนาอย่างครบวงจร เช่น ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาจิตสำนึกทางปัญญาเพื่อคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย   ชุดโครงการวิจัยเรื่อง การวิจัยและพัฒนาพลังปัญญาของเยาวชนไทยด้วยเครือข่ายของสถาบันครอบครัวและการศึกษา เพื่อนำไปสู่การเป็นเยาวชนที่เป็นผู้นำในโลกของการเปลี่ยนแปลง และชุดโครงการวิจัยและพัฒนาเชิงบูรณาการปัจจัยเชิงสาเหตุ คุณภาพชีวิตครอบครัว และการทำงานของผู้ใหญ่ เพื่อประสิทธิผลในการพัฒนาของเยาวชนไทย  ฯลฯ

รูปแบบงานวิจัย เป็นการทำวิจัยเพื่อตอบปัญหาเร่งด่วน  เช่นการสำรวจพฤติกรรมการใช้และกำจัดโทรศัพท์มือถือ  การวิจัยและพัฒนาพฤติกรรมบริโภคด้วยปัญญาของเยาวชนไทย   และโครงการประสิทธิผลในการอบรมทักษะและจิตลักษณะที่มี ต่อพฤติกรรมประหวัดน้ำและไฟของนักเรียนระดับประถมศึกษา ฯลฯ

โครงการวิจัยที่ตอบสนองแผนการวิจัยของสถาบัน  เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ที่สถาบันฯ มีความชำนาญมาแต่เดิม เช่น  โครงการวิจัยและพัฒนาจิตสำนึกทางปัญญาเพื่อคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย   พฤติกรรมการทำงาน  การอบรมเลี้ยงดูเด็ก

อนึ่ง :  ในการทำโครงการวิจัยของสถาบันฯ ทั้ง 3 รูปแบบได้เปิดโอกาสให้นิสิตเข้ามีส่วนร่วมในการวิจัย

ผลงานวิจัยของสถาบันยังไม่ ได้รับการอ้างอิงจากฐานข้อมูลศูนย์การอ้างอิงดัชนี

2.  คณาจารย์สถาบันฯ ที่เป็นนักวิจัยมีการรวมตัวกันเพื่อพัฒนาข้อเสนอโครงการแบบเชิงบูรณาการ ซึ่งจากการที่รวมตัวกันแต่ละคนมีความชำนาญต่างกัน ทำให้ได้ข้อเสนอโครงการที่สามารถวิจัยเพื่อหาคำตอบได้หลายแง่มุม เช่น โครงการบูรณาการครอบครัว (ทุนสนับสนุนภายใน) และโครงการกีฬาหมากล้อมกับลักษณะที่พึงประสงค์ของเยาวชนไทย (ทุนสนับสนุนจากภายนอก) ซึ่งข้อเสนอโครงการดังกล่าวมีนักวิจัยจากหน่วยงานอื่นนำไปเป็นต้นแบบในการเขียนชุดโครงการ เช่น คณะศึกษาศาสตร์  คณะมนุษยศาสตร์ เป็นต้น  

3.   มีการทำโครงการวิจัยกับหน่วยงานอื่นทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยและ ต่างประเทศ เช่น  โครงการวิจัยเรื่อง การวิจัยและพัฒนาพลังปัญญาของเยาวชนไทยฯ   เรื่องความพึงพอใจของผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีต่องานบริการของการไฟฟ้านครหลวง  และเรื่อง Progress of Collaboration and Research Project

4. ผลงานวิจัยของสถาบันฯ

4.1 มีจำนวนมากและเป็นที่ยอมรับ
4.2. มีการนำไปใช้ในการเรียนในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา เช่น หลักสูตรสาขาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์ หลักสูตรจิตวิทยาพัฒนาการ
4.3. มีการนำไปใช้ในการบริการวิชาการแก่ชุมชน เช่น โครงการพัฒนาครอบครัวเข้มแข็ง-เยาวชนคุณภาพด้วยเครือข่ายครอบครัว โรงเรียน ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดนครนายก

 

5. การเผยแพร่ผลงานวิจัย

5.1 มีการเผยแพร่ผลงานวิจัยทั้งในระดับชาติและนานาชาติอย่างสม่ำเสมอ
5.2 มีการเผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารระดับชาติ
5.3 จัดทำวารสารที่มีมาตรฐานระดับชาติพฤติกรรมศาสตร์
5.4 มีการเผยแพร่ผลงานวิจัยในการประชุมทางวิชาการระดับชาติและนานาชาติ

 
การสร้างเสริมความแข็งแกร่ง แนวทางแก้ไข
  1. สร้างความเข้าใจกับฝ่ายวิจัยของมหาวิทยาลัยในเรื่องนโยบายและความเข้มแข็งของการทำวิจัยของสถาบันฯ เพื่อให้ฝ่ายวิจัยให้ความสำคัญและส่งเสริมให้สถาบันฯ ทำวิจัยมากขึ้น เนื่องจากสถาบันฯ มีภารกิจเทียบเคียงได้กับศูนย์วิจัยที่ใช้ชื่อที่มีคำว่า “เลิศ” (Excellence) อยู่ด้วย ที่พบมักเป็นศูนย์ทางศึกษาศาสตร์ เรียกคำย่อเหมือน ๆ กันว่า CEE (Center for Excellence in Education)  ซึ่งมีภารกิจทั้งทำวิจัย  ทำการประเมินผล  จัดการฝึกอบรมเทคนิควิธีใหม่ ๆ ให้แก่ผู้บริหารทางการศึกษา และครูอาจารย์ ตลอดจนให้บริการทางการให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดจนมีหลักสูตรการสอนที่ให้ปริญญา หรือประกาศนียบัตรด้วย เช่นที่ University of Indiana และที่ Northern Arizona University
  2. ผลงานวิจัยของสถาบันยังไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายระดับชาติอย่างชัดเจน
  1. ควรมีการจัดทำโครงการเพื่อขอรับทุน Excellence Center Matching Fund (ECMF) เพื่อสนองนโยบายด้านวิจัยของมหาวิทยาลัยและ เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์วิจัยพฤติกรรมศาสตร์เฉพาะทาง เช่น  ด้านครอบครัว  ด้านการทำงาน  รวมทั้งมีการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงาน ที่มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายเพื่อนำผลวิจัยไปสู่การประยุกต์ใช้ ได้มากและรวดเร็วยิ่งขึ้น
  2. ควรแสวงหาแหล่งทุน และความร่วมมือระดับองค์การเพื่อ ให้ได้รับทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น
  3. ควรแสวงหางบประมาณทำวิจัยให้มากขึ้นเพื่อผลักดันให้งานวิจัย เป็นโครงการใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาของสังคมให้ชัดเจนมากขึ้น
  4. ควรมีการเพิ่มคุณภาพงานวิจัยของสถาบันฯ โดยสร้างระบบการจัดการคุณภาพภายในที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
  5. ควรมีการเผยแพร่ผลงานวิจัยลงในวารสาร ทางวิชาการในระดับนานาชาติที่กว้างขวางกว่าที่เป็นอยู่
  6. ควรมีการกำหนดทิศทางของงานวิจัยให้เป็น Theme หลัก ๆ ที่ชัดเจนเพื่อจะได้นำลงสู่การแก้ไขปัญหาระดับชาติมากยิ่งขึ้น
  7. เพิ่มช่องทางการเผยแพร่ให้มากขึ้น
  8. สนับสนุนให้บุคลากรนำผลงานไปลงวารสารนานาชาติมากขึ้น