อริสรา จรัสศรี. 2541. ลักษณะทางพุทธและพฤติกรรมศาสตร์ที่สัมพันธ์กับพฤติกรรม การพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ปริญญานิพนธ์ วท.ม. (พฤติกรรมศาสตร์). สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์. การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 2 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาว่าพยาบาลที่มีลักษณะทางพุทธลักษณะ ทางพฤติกรรมศาสตร์ (ได้แก่ ลักษณะทางจิต และสภาพแวดล้อมทางสังคม) แตกต่างกันเป็นผู้มีพฤติกรรมการพยาบาล ผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ แตกต่างกันหรือไม่ มากน้อยเพียงใด 2) เพื่อค้นหาตัวแปรที่สำคัญในการทำนายพฤติกรรมการ พยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ กลุ่มตัวอย่าง ที่ศึกษาเป็นพยาบาลวิชาชีพจากโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร คือ วชิรพยาบาล โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และจากโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คือ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มแบบง่าย หลังจากนั้นเลือกพยาบาลวิชาชีพอย่างเจาะจงคือ เป็นพุทธศาสนิกชนและมีประสบการณ์ในการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งสิ้นจำนวน 370 คน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยภาคสนาม เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบวัดซึ่งประกอบด้วย แบบสอบถามปัจจัยภูมิหลัง แบบวัดการปฏิบัติตนอย่างมีพรหมวิหาร 4 แบบวัดวิถีแบบพุทธ แบบวัดเหตุผลเชิงจริยธรรม แบบวัดความเชื่ออำนาจในตน แบบวัดทัศนคติต่องานพยาบาล แบบวัดการสนับสนุนทางสังคม แบบวัดความขัดแย้งใน บทบาท และแบบวัดพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ รวม 9 ฉบับ การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัย ใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทาง (Two way Analysis of Variance) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้น (Multiple Regression) เพื่อทดสอบสมมตอฐานที่ตั้งไว้ 7 ข้อ การวิเคราะห์ทั้งหมดนี้กระทำในกลุ่มรวมและกลุ่มย่อยที่แบ่งตามปัจจัยภูมิหลังของพยาบาลเพื่อให้ได้ผลที่ละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญมีดังนี้ คือ 1. มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างวิถีชีวิตแบบพุทธและทัศนคติต่องานพยาบาลที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อ เอดส์ในกลุ่มพยาบาลที่มีประสบการณ์ในการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์มาก โดยพบว่าพยาบาลที่มีทัศนคติดีหรือไม่ดีต่องาน พยาบาลก็ตาม ถ้ามีวิถีชีวิตแบบพุทธสูงจะมีพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์สูงกว่าพยาบาลที่มีวิถีชีวิตแบบพุทธต่ำ 2. การปฏิบัติตนอย่างมีพรหมวิหาร 4 หรือวิถีชีวิตแบบพุทธส่งผลต่อพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ ในกลุ่มรวมและกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม โดยพบว่าพยาบาลที่มีการปฏิบัติตนอย่างมีพรหมวิหาร 4 สูง หรือมีวิถีชีวิตแบบพุทธสูง เป็นผู้มีพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์สูงกว่าพยาบาลในกลุ่มตรงข้าม 3. เหตุผลเชิงจริยธรรมหรือทัศนคติต่องานพยาบาลส่งผลต่อพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มรวม และกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม โดยพบว่าพยาบาลที่มีเหตุผลเชิงจริยธรรมสูงหรือมีทัศนคติที่ดีต่องานพยาบาลเป็นผู้มีพฤติกรรมผู้ป่วยติด เชื้อเอดส์สูงกว่าพยาบาลในกลุ่มตรง 4. การสนับสนุนทางสังคม หรือความขัดแย้งในบทบาทส่งผลต่อพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ใน กลุ่มรวมและกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม โดยพบว่าพยาบาลที่มีการสนับสนุนทางสังคมสูงหรือมีความขัดแย้งในบทบาทต่ำเป็นผู้มี พฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์สูงกว่าพยาบาลในกลุ่มตรงข้าม 5. การค้นหาตัวทำนายพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ พบว่า การปฏิบัติตนอย่างมีพรหมวิหาร 4 การสนับสนุนสังคม วิถีชีวิตแบบพุทธ ความขัดแย้งในบทบาทเหตุผลเชิงจริยธรรม และทัศนคติต่องานพยาบาล สามารถ ร่วมทำนายพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มรวมทำนายได้ 39% นอกจากนี้เมื่อทำการวิเคราะห์ผลในกลุ่ม ย่อย 10 กลุ่ม พบว่า การปฏิเสธตนอย่างมีพรหมวิหาร 4 เข้าทำนายพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ได้ทุกกลุ่มย่อย วิถีชีวิตแบบพุทธเข้าทำนายพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ได้ 9 กลุ่ม ความขัดแย้งในบทบาทเข้าทำนายพฤติกรรม การพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ได้ 5 กลุ่ม เหตุผลเชิงจริยธรรมเข้าทำนายพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ได้ 3 กลุ่ม ทัศนคติต่องานพยาบาลเข้าทำนายพฤติกรรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ได้ 3 กลุ่ม | SWU | | BSRI |