วัตถุประสงค์ ในการวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ต้องการค้นหาตัวแปรสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรม การพนัน จากตัวแปรที่เป็นปัจจัยทางครอบครัว ปัจจัยทางโรงเรียน และปัจจัยลักษณะของบุคคล วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง ที่ศึกษาเป็นนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 432 คน ในเขตอำเภอเมืองจังหวัด นครราชสีมา แบ่งเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 216 คน และมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 216 คน เ ครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย แบบวัดพฤติกรรมการพนัน การอบรมเลี้ยงดูการยอมรับ อิทธิพลของเพื่อน การใช้เวลาว่าง การรับรู้สภาพแร้นแค้นทางจิตในสถานศึกษา ความเชื่ออำนาจใน-นอกตน และทัศนคติต่อ ารพนัน การวิเคราะห์ข้อมูลได้ใช้สถิติการ วิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทางแบบสามทางและใช้สถิติวิเคราะห์การ ถดถอยพหุคูณ สรุปผล 1. นักเรียนที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบใช้เหตุผลมากและมีจำนวนบุคคลใกล้ชิดเล่นการพนันจำนวนน้อย จะมีพฤติกรรมการพนันน้อยกว่านักเรียนที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบใช้เหตุผลน้อย และมีจำนวนบุคคลใกล้ชิดเล่นการพนัน จำนวนมาก 2. นักเรียนที่มีบุคคลใกล้ชิดเล่นการพนันจำนวนน้อยมีการรับรู้สภาพแร้นแค้นทางจิตในสถานศึกษาต่ำมีการ ยอมรับอิทธิพลของเพื่อนในทางเสื่อมเสียน้อย มีการใช้เวลาว่างในทางเหมาะสมมากมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงและ มีทัศนคติที่ดีต่อการพนันน้อย นักเรียนกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้จะมีพฤติกรรมการพนันน้อย 3. นักเรียนที่มีการยอมรับอิทธิพลของเพื่อนในทางเสื่อมเสียน้อยและมีการใช้เวลาว่างในทางเหมาะสมมาก จะมีพฤติกรรมการพนันน้อยกว่านักเรียนที่มีการยอมรับอิทธิพลของเพื่อนในทางเสื่อมเสียมากและใช้เวลาว่างใน ทางเหมาะสมน้อย 4. ตัวแปรปัจจัยทางครอบครัว ปัจจัยทางโรงเรียน และปัจจัยส่วนบุคคล ร่วมกันทำนายพฤติกรรมการพนันได้ 54%